หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ยินดีต้อนรับสู่ แม่ฮ่องสอน



หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง  
       
                  คำขวัญประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนนี้้แทบจะบ่งบอกทุกอย่างของเมืองเล็กๆอันแสนสงบแห่งนี้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว  เมื่องแม่ฮ่องสอนเป็นเมืองเล็กๆทางเหนือที่มีพื้นที่ที่เป็นตะวันตกสุดของไทย เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันด้วยผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์แต่กลับเป็นเมืองที่เงียบสงบด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย  ใช้ชีวิตกันอย่างไม่เร่งรีบด้วยสัมพันธ์ไมตรีอันดีงามจนได้ขนานนามว่าเป็นเมืองของผู้คนดี  และยังมีประเพณีอันงดงามที่สืบทอดต่อกันมากเป็นเวลานาน  อดมสมบูรณ์ไปด้วยเสน่ห์ของขุนเขาและอากาศสดชื่นเย็นสบาย  ถึงแม้การเดินทางจะเหนื่อยหนักด้วยต้องพิชิตเขานับร้อยและโค้มนับพันทะลุผ่านผืนป่าฝ่าดงหมอกกว่าจะถึงหากคุณชื่นชอบธรรมชาติ คุณจะไม่รู้สึกเบื่อกับการเดินทางเลย  เมื่อถึงช่วงเดือนพฤษจิกายนของทุกปี่ก็จะเห็นดอกไม้สี้เหลืองผลิบายไปทั่วทั้งขุนเขา  บน "ยอดดอยแม่อูคอ"เป็นแห่งแรกจนดอกไม้ชนิดนี้รู้จักกันไปทั่ว  ดอกสีเหลืองนั้นคือ "ดอกบัวตอง" ซึ่งเป็นดอกไม้คู่กับเมืองแม่ฮ่องสอนไปแล้ว  ด้วยสิ่งต่างๆเหล่านี้บวกกับรอยยิ้มและไมตรีจิตรที่ชาวแม่ฮ่องสอนมีให้  จึงทำให้เมืองแห่งนี้มีเสน่ห์น่าค้นหาและมาเยือน แล้วต้องกลับมาเยือนอีดครั้งด้วยต้องมนต์ของเมืองแห่งนี้  ที่ผมพูดมาอาจจะไม่เกินไปเลย หากได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองที่  "แม่-ฮ่อง-สอน"


โดย เลิศปัญญา วิชาเชาว์


ข้อมูลทั่วไป จังหวัดแม่ฮ่องสอน

            แม่ฮ่องสอน เป็นหนึ่งในหลายจังหวัดชายแดนของไทย โดยมีอาณาเขตติดต่อกับสหภาพพม่า ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกสุดของภาคเหนือ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 924 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 12,681.259 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง แม่สะเรียง ขุนยวม ปาย แม่ลาน้อย สบเมย และปางมะผ้า

มีอะไรในเมืองสามหมอก 
        คำว่า "เมืองสามหมอก" คงไม่เกินเลยไปสำหรับแม่ฮ่องสอน จากการที่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่นในหุบเขา ล้อมรอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทอดขนานไปกับทิวเขาถนนธงชัย และทิวเขาแดนลาว มีป่าไม้ที่ถือได้ว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย มีแม่น้ำปายไหลผ่าน แม่ฮ่องสอนจึงมีหมอกปกคลุมทั้ง 3 ฤดู
 


        หมอกในฤดูร้อน คือหมอกอันเกิดจากไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุก ๆ ปี
        หมอกในฤดูฝน คื หมอกฝนอันชุ่มฉ่ำ จากเมฆฝนที่ตกตามฤดูกาล เมื่อกระทบอากาศเย็นในยามเช้า หรือยามเย็น ก็จะเกิดหมอกจาง ๆ ปกคลุมไปทั้งขุนเขาที่รายล้อมแม่ฮ่องสอนอยู่



       หมอกในฤดูหนาว ซึ่งหมายถึง หมอกเหมย หรือ หมอกจากไอหนาว จากอากาศที่หนาวยะเยือก ซึ่งในหลายปีให้หลัง ปางอุ๋ง จะเป็นจุดชม "หมอกเหมย" ที่ทั้งงดงามและขึ้นชื่อที่สุดของแม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอนมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 
จังหวัดแม่ฮ่องสอน นั้นที่มี Unseen Thailand ถึง 3 แห่ง อันได้แก่ 

  1. ถ้ำแก้วโกมล อ.แม่ลาน้อย 
  2. ภูโคลน อ.เมือง 
  3. ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า 

         อีกทั้ง อ. ปาย ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นอำเภอที่โรแมนติคที่สุดในประเทศ และเป็นโลเกชั่นสำคัญของทั้ง ภาพยนตร์ และละครมากมาย
นอกจาก "ปาย" แล้ว ภาพของ สายหมอกลอยระเรี่ยกับผิวน้ำยามต้องแสงอาทิตย์เป็นสีทอง ของ ปางอุ๋ง ถือได้ว่าเป็น "สายหมอก" ที่งดงามที่สุดของไทย 



        
         ศิลปวัฒนธรรมประเพณีซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสูรุ่น ของเมืองไทยใหญ่เดิมอย่างแม่ฮ่องสอนนี้ ก็ยังคงมีให้เห็นจากบ้านเรือนที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวหรือสองชั้นแบบโบราณเรียกว่า บ้านแบบไทยใหญ่ บ้านไทยใหญ่นั้นสร้างด้วยไม้มีใต้ถุนสูง หลังคามุงด้วยใบตองตึง มีการแต่งกายแบบพื้นเมือง ซึ่งเรียกกันว่า ชุดไต คือผู้ชายนุ่งกางเกงคล้ายกางเกงจีนหรือกางเกงชาวเล สวมเสื้อคอกลม แขนยาวป้ายแบบจีน ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงยาวสวมเสื้อทรงกระบอกตัวสั้นเพียงเอว 
         ชาวแม่ฮ่องสอนยังใช้ภาษาท้องถิ่นและรับประทานอาหารพื้นเมือง ขนมพื้นเมืองอย่าง อาละหว่า ส่วยละมิน หรือเป็งม้ง ยังคงมีขายอยู่ทั่วไปในแม่ฮ่องสอน ประเพณีสำคัญ ๆ อย่าง ปอยส่างลอง หรือ บวชลูกแก้ว ซึ่งเป็นพิธีบวชเณรหมู่ ที่เณรทั้งหลายจะแต่งหน้าตาด้วยสีสันสดใส แต่งกายด้วยชุดไทยใหญ่สีขาว บนศีรษะประดับด้วย มาลาดอกไม้สีสวยงาม กลายเป็นพิธีบวชที่มีนักท่องเที่ยวรอคอยที่เข้่าร่วมชื่นชมในประเพณีนี้มากมาย สิ่งเหล่านี้นับว่าคือเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน และได้รับความประทับใจทุกคน


ประวัติและความเป็นมาจังหวัดแม่ฮ่องสอน 
         เมื่อปี พ.ศ. 2374 พระเจ้ามโหตรประเทศ ผู้ครองนครเชียงใหม่ ให้ เจ้าแก้วเมืองมา เป็นแม่กอง นำไพร่พลช้างต่อและหมอควาญ ออกไปจับช้างป่ามาใช้งาน เจ้าแก้วเมืองมา ยกไพร่พลช้างช้างป่ามาใช้งาน เจ้าแก้วเมืองมา ยกไพร่พลข้ามภูเขา มาทางตะวันตกของเชียงใหม่ ซึ่งมีช้างป่าชุกชุม โดยมอบหน้าที่ให้ พะกาหม่อง เป็นผู้ควบคุมดูแล เมื่อคล้องช้างได้เป็นจำนวนเพียงพอแล้ว จึงพากันเดินทางต่อไปถึงชุมชนบ้านป่าแห่งหนึ่ง มีทำเลดีมีร่องธารน้ำและที่ราบ เหมาะแก่การฝึกช้างป่า จึงหยุดไพร่พลตั้งบ้านเรือนขึ้นที่นี่ และตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "แม่ร่องสอน" หมายถึงที่มีร่องน้ำฝึกช้าง ต่อมา ได้เพี้ยนเป็น "แม่ฮ่องสอน"

         ครั้นถึงปี พ.ศ. 2399 มีชาวไทยใหญ่ อพยพมาหลบภัยสงครามอยู่ที่แม่ร่องสอนเป็นจำนวนมาก โดยมี เจ้าฟ้าโกหล่าน และชานกะเล เป็นหัวหน้า เมื่อมาอยู่ที่นี่ ชานกำเล ได้ช่วยหน่วยงานต่างๆ จนเป็นที่โปรดปรานของพะกาหม่องถึงกับยกลูกสาวชื่อนางไส ให้เป็นภรรยา ต่อมาชานกะเล อพยพครอบครัวลงใต้มาอยู่ที่เมืองกุ๋นลม หรือขุนยวมในปัจจุบัน ได้เป็นเข้าเมืองกุ๋นลมคนแรก ต่อมานางไสถึงแก่กรรม เจ้าฟ้าโกหล่าน ยกหลานสาวชื่อเจ้านางเมี๊ยะให้เป็นภรรยา ชานกะเลปกครองเมืองกุ๋นลม เจริญมั่งคั่งส่งส่วยตอไม้ให้ได้มากมาย จนถึง พ.ศ. 2417 เจ้าอินทวิชยานนท์ จึงแต่งตั้งชานกะเลเป็น พญาสิงหนาถราชา แล้วสถาปนาเป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก
          จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงถือเอาต้นกำเนิดเมือง คือ ร่องน้ำสอนช้าง และช้างตัวเดียวเล่นน้ำ เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด 


คำขวัญประจำจังหวัด
หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง


อาณาเขต 
ทิศเหนือติดต่อกับรัฐฉาน แห่งสหภาพพม่า
ทิศใต้ติดต่อกับอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอแม่แจ่ม อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
ทิศตะวันตกติดต่อกับสหภาพพม่า 








การเดินทางสู่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

รถยนต์

         แม่ฮ่องสอนในอดีตเป็นเมืองที่เร้นลับและทุรกันดารในสายตาของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เนื่องจากเดิมนั้นการเดินทางเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีถนนเพียงสายเดียว คือ ทางหลวงหมายเลข 108 ซึ่งตัดจากจังหวัดเชียงใหม่ผ่านอำเภอหางดง สันป่าตอง จอมทอง ฮอด แม่สะเรียง แม่ลาน้อย และขุนยวม มาถึงอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน รวมระยะทางประมาณ 349 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้เป็นทางตัดขึ้นเขาสูง มีความสวยงามและคดเคี้ยวนับได้มากถึง 1,864 โค้ง ปัจจุบันมีถนนจากจังหวัดเชียงใหม่ถึงแม่ฮ่องสอนเพิ่มขึ้นอีกสายหนึ่ง คือทางหลวงหมายเลข 1095 หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่าเส้นทางสายแม่มาลัย-ปาย ตัดจากอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอนเหลือระยะทางเพียง 245 กิโลเมตร นอกจากนี้ เส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางผ่านไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย อาทิ ห้วยน้ำดัง และถ้ำต่างๆ ปัจจุบันเป็นถนนลาดยางอย่างดีตลอดสาย และหากนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางจากจังหวัดตากไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยไม่แวะเข้าจังหวัดเชียงใหม่ก็สามารถเดินทางได้ตามทางหลวงหมายเลข 108 ผ่านอำเภอแม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง ถึงอำเภอแม่สะเรียง มีระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง

รถโดยสารประจำทาง
       จากกรุงเทพฯ 
             -มีรถโดยสารประจำทางปรับอากาศของบริษัทเอกชน ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร ทุกวันๆ ละ 1 เที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมบัติทัวร์ โทร. 0 2936 3587-8 

       จากเชียงใหม่ 

           
  -มีรถโดยสารประจำทางทั้งธรรมดาและปรับอากาศ วิ่งบริการ 2 เส้นทางคือ สายเชียงใหม่-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน 
(ทางหลวงหมายเลข 108) มีบริการวันละหลายเที่ยว ตั้งแต่เวลา 
06.30-21.00 น. ใช้เวลาเดินทางถึงอำเภอ 
แม่สะเรียง 4 ชั่วโมง ถึงแม่ฮ่องสอน 8 ชั่วโมง 
สายเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน 
(ทางหลวงหมายเลข 107 และ 1095) มีบริการวันละหลายเที่ยว ตั้งแต่เวลา 
07.00-12.30 น. ใช้เวลาในการเดินทาง 
ประมาณ 6 ชั่วโมง 

รายละเอียดติดต่อ บริษัท เปรมประชาขนส่ง จำกัด โทร. 0 5361 1318 

          นอกจากนี้ยังมีรถวิ่งระหว่างแม่ฮ่องสอนและแม่สะเรียง ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า ถึง ตี 1 รายละเอียดสอบถามสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5368 1347

เครื่องบิน
บมจ. การบินไทย มีบริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000, 0 2356 1111
สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0 5321 0043-5, 0 5321 1044-7
สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 1297, 0 5361 1194
www.thaiairways.com 



สายการบินนกแอร์ ทำการบินระหว่าง แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 0 5361 2057 ต่อ 106 หรือ call center โทร. 1318 หรือ www.nokair.com 

สายการบินเอสจีเอ มีบริการเที่ยวบินระหว่าง เขียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน และ เชียงใหม่-ปาย ทุกวัน โทร. 0 2664 6099 หรือ www.sga.co.th